
แบงก์ชาติ ห่วงหนี้บัตรเครดิตพุ่ง จ่อออกเกณฑ์คุมแบงก์ออกแคมเปญลดก่อหนี้เพิ่ม
ธนาคารแห่งประเทศไทย ห่วงหนี้สินบัตรเครดิตพุ่ง จ่อออกหลักเกณฑ์คุมธนาคารออมแคมเปญลดการก่อหนี้สินเกินกำลัง
นายรณดล นุ่มนันท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพด้านสถาบันการเงิน ธนาคารชาติ (ธนาคารแห่งประเทศไทย) กล่าวมาว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยมีความห่วงปัญหาหนี้สินครอบครัวที่มากขึ้นในตอนวิกฤติวัววิด ซึ่งตอนนี้อยู่ที่กว่า 80% ของจีดีพี จากตอนก่อนวัววิดหนี้สินครอบครัวอยู่ที่ระดับ 50% ของจีดีพี ดังนี้ จากการตำหนิดตามข้อมูลของ ธนาคารแห่งประเทศไทย พบว่า รูปทรงหนี้สินดังที่กล่าวมาข้างต้น 35% เป็นหนี้สินเชื่อส่วนตัว หรือบัตรเครดิต ไม่ใช่สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อที่พักที่อาศัยที่ไม่ก่อกำเนิดรายได้ในอนาคต ซึ่งได้วางกระบวนการปรับปรุงหนี้สินครอบครัว ไว้ 3 ทางหมายถึง1.การปรับปรุงหนี้สินในตอนนี้ หรือการลดหนี้สิน 2.การปลดปล่อยสินเชื่อให้มีคุณภาพ และก็ 3.การให้ความรู้ความเข้าใจด้านการเงินแก่สามัญชน
ดังนี้ ข้างในไตรมาส 1/66 ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดแจงออกประกาศ หรือจดหมายเวียน ถึงสถาบันการเงินแล้วก็ผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนธนาคาร) เพื่อเป็นแถวทางการปลดปล่อยสินเชื่อส่วนตัว หรือบัตรเครดิต ที่เป็นลักษณะการโฆษณาผ่านแคมเปญต่างๆหรือ เรียกว่า ประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุกความประพฤติการใช้จ่าย สำหรับสถาบันการเงินภายใต้การดูแลดูแลของ ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งการปฏิบัติการดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น มั่นใจว่า จะเป็นผลดีในระยะยาว และก็ลดการก่อหนี้สินที่ไม่มีความจำเป็นของภาคครอบครัวลงด้วย
“ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเข้าไปดูการก่อหนี้สินใหม่ จะปลดปล่อยสินเชื่อมีคุณภาพยังไง สถาบันการเงินควรจะมีความรับผิดชอบต่อลูกหนี้ ซึ่งมีหลายมิติ แล้วก็จำต้องไม่กระตุกความประพฤติ ให้ก่อหนี้สินล้นเหลือตัว ไม่ก่อเกิดรายได้ สถาบันการเงินจำต้องใส่ใจกับการออกสินค้าสินเชื่อ โปรโมทแคมเปญต่างๆสินเชื่อที่ไม่ก่อผลดีกับลูกหนี้” นายรณดล กล่าว
ยิ่งไปกว่านี้ ในปี 66 ธนาคารแห่งประเทศไทยจะกำหนดหลักเกณฑ์การให้สินเชื่อ ซึ่งจะไม่พิเคราะห์เฉพาะความรู้ความเข้าใจสำหรับการจ่ายใช้หนี้ใช้สินของลูกหนี้แค่นั้น แม้กระนั้นจะไตร่ตรองเหตุว่าเมื่อจ่ายหนี้แล้ว ยังมีเงินเหลือแค่เพียงพอสำหรับในการครองชีพหรือเปล่า โดยจะไตร่ตรองระดับรายได้สุทธิของลูกหนี้ที่สมควรประกอบกันไปด้วย
ด้าน นางสาวสุวรรณี เจษฎาอำนาจ ผู้อำนวยการอาวุโส ข้างแนวนโยบายรวมทั้งดูแลสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย พูดว่า หลักเกณฑ์ดังที่กล่าวผ่านมาแล้วที่จะออกมา จึงควรไม่คือปัญหาสำหรับในการก่อหนี้สินในระยะยาว หรือมีแคมเปญที่ส่งเสริมให้ก่อหนี้สินจนกระทั่งขาดประสิทธิภาพ โดยยิ่งไปกว่านั้นคำเชื้อเชิญในก่อหนี้สิน ชนิด “ของมันควรจะมี” ซึ่งจากที่ตรวจตรามีแคมเปญโปรโมทต่างๆจำนวนมากเป็นนอนธนาคาร ได้แก่ ให้กู้เพื่อไปท่องเที่ยวประเทศนอก กู้เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์แบรนด์เนม กู้เพื่อผ่อนหนี้โทรศัพท์มือถือ
“ดังเช่น ให้กู้เพื่อผ่อนไอโฟน 14 ในช่วงเวลานานๆซึ่งหัวข้อนี้มิได้ห้าม แม้กระนั้นอยู่ที่สมควรไหม เนื่องจากทุกๆวันนี้มีการกู้เพื่อของมันจะต้องมี และก็ปัจจุบันนี้เด็กที่เพิ่งจะเรียบจบมาหมาดๆมีหนี้สินเร็ว รวมทั้งชาวไทยยังมีหนี้สินนาน ใกล้ปลดเกษียณแล้ว ก็ยังมีหนี้สิน” นางสาวสุวรรณี เจาะจง